เรื่องเล่าจากเมล์

ชายอินเดียย้ายไปอยู่ที่มอนทรีล
เขาไปสมัครงานที่ห้างใหญ่แห่งหนึ่งผู้จัดการถามเขาว่า
"คุณเคยมีประสบการณ์ด้านการขายมาบ้างไม๊?"

เขาตอบว่า "ตอนอยู่ที่บ้านเดิมเคยเป็นพนักงานขายจ้านายจ๋า"

ผู้จัดการจึงรับเข้าทำงาน "ยูมาเริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะ
หลังจากปิดร้านไอจะลงมาตรวจว่ายูทำอะไรไปบ้าง แต่ขอแนะนำอะไรหน่อยนะ
อย่างถ้าลูกค้ามาซื้อยาสีฟัน
นายก็น่าจะแนะนำให้เขาซื้อแปรงสีฟันและครีมโกนหนวดไปด้วย อะไรประมาณนี้นะ
เข้าใจไม๊?"

"ชัวร์ อีนี้ ฉานเข้าใจครับ"

การทำงานวันแรกแม้จะยากแต่แขกคนนี้ก็ผ่านมันมาได้
หลังจากปิดร้านผู้จัดการก็มาดู  "เป็นไง ได้ลูกค้ากี่รายวันนี้?"

"อีนี้ รายเดียวขอรับ"

ผู้จัดการร้องลั่น
"หา รายเดียวเองเหรอ? รู้ไม๊ว่า ทั่วไปเค้า ขายกันได้เฉลี่ยวันละ 20 หรือ
30 รายเชียวนะ แล้วยูขายได้เงินมาเท่าใหร่ฟะ "

ผู้จัดการเริ่มออกอาการไม่พอใจขนาดหนัก

แขกตอบว่า "201,237 ดอลล่าร์ครับ"

ผู้จัดการตกใจ   "หา? 201,237 ดอลล่าร์ เหรอ? ท่านขายอะไรให้เค้าไปน่ะ?"
(สรรพนามเริ่มเปลี่ยนทันที)

"ทีแรกก็เบ็ดตกปลาขนาดเล็ก แล้วก็เบ็ดขนาดกลาง แล้วก็เบ็ดขนาดใหญ่
แล้วก็คันเบ็ดรุ่นใหม่
จากนั้นพอ ฉานถามเขาว่าจะไปตกปลาที่ไหน เขาตอบว่าจะไปที่ชายฝั่งฉานเลยเสนอว่า
เขาน่าจะมีเรือสักลำ เราเลยลงไปดูที่แผนกเรือ แล้วก็ขายเรือ Chris
เครื่องยนต์คู่ให้เขา
แล้วเขาก็บอกว่าสงสัยรถ Honda Civicของเขาคงจะลากเรือลำนี้ไม่ไหว ฉานเลยพาเขาลงไป
ที่แผนกรถยนต์ แล้วก็ขาย TOYOTA LAND CRUISER 4X4 ให้เขาไปได้อีกคันครับ"

ผู้จัดการถามว่า
"หมายความว่ามีชายคนหนึ่งมาที่นี่เพื่อที่จะซื้อขอเบ็ดอันเดียว
แต่ท่านขายเรือกับรถกระบะให้เค้าได้งั้นเหรอ?"

แขกก็ตอบว่า
"โอ้ โนๆๆๆ อีนี้เปล่าครับ เปล่า เขาแค่มาซื้อผ้าอนามัยให้เมีย
แต่อีนี้ฉานเลยบอกเขาว่า
ถ้างั้นไหนๆ สุดสัปดาห์นี้ ยังไงนายก็ไม่ได้ xxx กะเมียแน่ๆ ดังนั้น
อีนี้ อย่าช้า ไปตกปลาดีกว่ามั้ง!!

เหตุที่ บริษัท ฯ ต้องการย้ายสำนักงานแห่งใหม่

ถ้าหากสามีชอบดูหนังโป๊ ปลุกอารมณ์ก่อนมีอะไรกัน คนเป็นเมียอย่างเรา...
ตอบโดย : อานนท์ เรืองอุตมานันท์, น.พ.


ผู้ชายกับหนังโป๊ ของมันคู่กันเรื่องอย่างว่าฯ ของผมเดี๋ยวนี้ ยิ่งนับวันก็ยิ่งน่าหวาดเสียวเข้าไปทุกที แต่ที่จริงเรื่องพรรณนี้ใครๆ เขาอาจจะทำกันก็ได้ แต่เรื่องอย่างว่าใครจะมาเล่าให้ฟังล่ะครับ มองไปมองมาก็เลยหาใครมาเล่าให้ฟังไม่ได้ เลยต้องมาลงเอยที่ผมนี่แหละ


จะว่าไปแล้วผู้ชายส่วนใหญ่ก็ชอบดูหนังโป๊กันทั้งนั้นแหละ ครับ แต่จะชอบมากชอบน้อย หมกมุ่นมากหมกมุ่นน้อยมันก็แล้วแต่คน รู้สึกว่าเคยเล่าให้ฟังกันไปแล้วนะครับตอนที่เป็นนักเรียนแพทย์ปีสุดท้ายที่ ศิริราช ตอนนั้นอยู่หอชาย1 เป็นหอพักเก่าแก่โบราณมาก ..แต่ก็ดูขลังดี เพดานห้องสูงลิบ เดินออกมาจากห้องบางทีก็เจอค้างคาวบินกันพรึบ เวลาอยู่เวรดึกดื่นเดินผ่านห้องทีวีทีไร


ลองแอบแง้มดูรับรองไม่มี พลาด.. เราก็ดูบ้างไม่ดูบ้าง วันไหนเหนื่อยๆ กลับมา ยิ่งดูเดี๋ยวก็ยิ่งเหนื่อยเข้าไปใหญ่ แล้วพวกที่ชอบดูหนังโป๊ก็มักเป็นเจ้าประจำ เจอกี่ทีมันก็นั่งน้ำลายหยดหน้าทีวีทุกที แต่เดี๋ยวนี้แยกย้ายเป็นใหญ่เป็นโตกันหมดแล้ว ..รับรองได้ว่าตอนนี้เพื่อนคนที่ว่านี้มันก็ยังคงชอบดูหนังโป๊อยู่เหมือน เดิม


ผู้ชายเราเนี่ยดูจากนิสัย รูปร่างหน้าตาภายนอกก็บอกไม่ได้หรอกครับว่าคนนี้ชอบดูหนังโป๊ ชอบหมกมุ่นอยู่กับเรื่องอย่างว่าหรือเปล่า พวกที่ทะลึ่งตึงตังดูเหมือนจะลามกด้วยซ้ำไป พวกนี้กลับบ้านอาจจะอ่านแต่หนังสือธรรมะก็ได้ แต่คนที่เรียบร้อย เงียบๆ หงิมๆ นี่สิตัวดี รับรองที่ห้องจะมีหนังสือโป๊ซ่อนอยู่เพียบ เป็นแฟนกันมาตั้งนานถ้าไม่บอกก็ไม่มีทางรู้หรอกครับ จนแต่งไปแล้วถึงค่อยมารู้ทีหลังว่าสามีชอบดูหนังโป๊


มาดูฝ่ายผู้หญิงกัน บ้างครับ ถามไปถามมาก็หาที่ชอบดูหนังโป๊ได้น้อยมากครับ ส่วนมากก็มักจะบอกว่าดูแล้วอยากจะอาเจียน ผู้หญิงส่วนใหญ่แล้วก็จะชอบดูหนังเรตอาร์มากกว่าหนังเรตเอ็กซ์ ยิ่งโรแมนติกหวานแหววยิ่งชอบ ตรงข้ามกันกับผู้ชายเลยครับ ผู้ชายน่ะดูหนังอาร์แล้วรำคาญ ปิดๆ บังๆ ดูแล้วไม่สะใจ ดูกับทั้งทีก็ต้องเป็นเรตเอ็กซ์สุดๆ ไปเลย


หนังโป๊ชูรสอย่างว่าจริงอ่ะ
ตอน แต่งอยู่กันใหม่ๆ รับรองได้ครับว่าสามีไม่มาชวนดูหนังโป๊กันหรอก เพราะทำเองดูน่าจะตื่นเต้นเร้าใจกว่าเป็นไหนๆ นี่ถ้าแต่งกันได้สองวันแล้วมาชวนดูหนังโป๊นี่ให้สงสัยเอาไว้ก่อนเลยว่าคุณ สามีอาจจะวิตถาร หมกมุ่นอยู่กับเรื่องอย่างว่ามากไปหน่อย เพราะแต่งกันใหม่ๆ จะเน้นเรื่องความโรแมนติค เรื่องความรักหวานแหวว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นกลไกของความรักเท่านั้นครับ


แรกๆ ข้าวใหม่ปลามัน... เจ็ดวันเจ็ดคืนไม่มีเว้นมันก็ไม่แปลก ประจำเดือนมาหยุดไปสามวันก็แทบจะขาดใจ แต่ความเห่อก็มักจะแพ้กาลเวลา นานๆ เข้าความตื่นเต้นเร้าใจมันก็น้อยลง ..จากเจ็ดวันเจ็ดคืนไม่มีพักก็กลายเป็นเจ็ดวันครั้ง สิบปีต่อมาก็เหลือแค่เดือนละหน ..ถึงตอนนี้ก็คงต้องปรับแต่งจูนเครื่องกันใหม่แล้วครับเพื่อให้เรื่องอย่าง ว่ากลับมาเร่าร้อนเหมือนเดิม ต้องหาบรรยากาศดีๆ หาเวลากันตามลำพังสองคนบ่อยๆ แล้วที่เห็นแอบใช้กันบ่อยๆ ก็นี่แหละ... หนังโป๊ที่พูดถึงกันมาตั้งนานนี่เองครับ


เรื่องอย่างว่าเราก็ทำกันอยู่ แค่สองคน ไม่เคยให้ใครดู หรือไม่เคยไปแอบดูใครก็เลยไม่รู้หรอกครับว่าเรื่องอย่างว่าของเราเนี่ยมัน ใช้ได้แล้วหรือยัง ..บางทีเราก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนอื่นเขาทำยังไงกันบ้างนะ ถ้าหากมีอะไรเด็ดๆ จะได้แอบเอามาใช้บ้าง มันก็เหมือนคนที่ชอบตีเทนนิส ก็มักจะชอบดูถ่ายทอดสดภราดร ศรีชาพันธ์ ขวัญใจคนไทยเรา เวลาเจ้าบอลตีลูกเด็ดๆ เราก็มักจะจำเอามาลองดูบ้าง... สำหรับเรื่องอย่างว่าก็ไม่มีถ่ายทอดสดให้ดูหรอกนะครับ มีแต่ที่ถ่ายทำบันทึกเทปกันไว้แล้ว จริงๆ แล้วหนังโป๊มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงแบบธรรมชาตินะครับ ส่วนมากแล้วก็เป็นการแสดงตามบทที่เขียนกันเอาไว้ล่วงหน้าแล้วทั้งนั้น ยกเว้นพวกที่ไปแอบถ่ายติดกล้องเอาไว้ตามโรงแรมม่านรูด... คุณสามีที่ชอบแอบหนีเมียพาเด็กไปเข้าม่านรูดก็ระวังเอาไว้หน่อยก็แล้วกัน วันดีคืนดีอาจจะได้เป็นดาราจำเป็น
ไม่รู้ตัวก็ได้


ดู "หนังโป๊" ผิดมั้ย
หนังโป๊ก็คือ ภาพยนตร์ที่เป็นเรื่องราวอะไรก็ได้ แต่จะมีบทพิศวาสที่ค่อนข้างโจ๋งครึ่มชัดเจน จะชัดเจนแค่ไหนก็ขึ้นกับว่าเป็นหนังเรตไหน ถ้าเป็น Rate R ก็จะเห็นแค่ลีลาท่วงท่าเท่านั้นครับ ไม่มีส่วนสำคัญแพลมมาให้เห็น ก็เลยต้องจินตนาการช่วยกันเยอะหน่อย หนังโป๊ประเภทที่เห็นกันจะๆ ทุกอย่างไม่มีปิดไม่มีบังให้เสียอารมณ์ก็ต้องเป็น Rate X ครับ แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือ Rate X ก็ยังมี Triple X หรือ Rate XXX ระดับนี้รับประกันคุณภาพเลยครับว่าเห็นกันหมดทุกอย่างทุกหลืบทุกซอกทุกมุม Close Up ให้ดูเต็มลูกกะตาเลยครับ จนบางทีรู้สึกเหมือนนอนอยู่บนเตียงเดียวกับเขาเลยทีเดียว


หนังโป๊ที่เป็นเรต X ก็จะทำเรื่องอย่างว่ากันจริงๆ เลยครับ แต่ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างธรรมชาติ เพราะส่วนหนึ่งมันก็เป็นการแสดง ดังนั้นบางทีก็อาจจะแสดงดูเกินจริงบ้าง... ประเภทนางเอกนอนดิ้นทุรนทุรายเหมือนจะขาดใจตายทำนองนี้ แต่ด้วยความที่มันค่อนข้างจะเกินจริงนี่แหละที่ทำให้มันปลุกเร้าอารมณ์ได้ อย่างเหลือเชื่อ


แล้วคนที่เป็นเมียเนี่ยจะทำ อย่างไรดีล่ะถ้าหากสามีเอาหนังโป๊มาให้ดู...


ก่อนอื่นก็ต้องดู จริตของเราก่อน ถ้าก่อนแต่งดูหนังโป๊อย่างนี้ไม่ได้เลย ดูแล้วอยากอาเจียน ก็ไม่ได้แปลว่าพอมีสามีแล้วเราจะรู้สึกเหมือนเดิม อาการอยากอาเจียนอาจจะหายไปเป็นปลิดทิ้งเลยก็ได้ ถ้าไม่รู้สึกอะไรที่มันแย่นัก ทำไมไม่เปิดใจลองดูสักครั้งล่ะ ลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ดู บางทีอาจจะติดใจก็ได้ แต่ถ้าไม่ชอบ ลองสักครั้งแล้วเลิกไปเลยก็ได้


การนอนดูหนังโป๊กันสองคนไม่ ได้เป็นสิ่งผิด เป็นเรื่องส่วนตั๊ว ส่วนตัว ตราบใดที่ไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน แต่อย่าให้ใครมาเห็นก็แล้วกันเดี๋ยวจะเสียภาพพจน์หมด


แต่ก็ใช่ว่าจะต้อง ดูหนังโป๊กันบ่อยๆ นะ เอาเป็นว่าเป็นส่วนประกอบเมื่อยามจำเป็นดีกว่า ดูกันบ่อยๆ เดี๋ยวจะรู้สึกว่ามันหมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องอย่างว่าเสียเปล่าๆ เมื่อไหร่ที่ยังรู้สึกว่าเรื่องอย่างว่ายังมีความสุขล้นเหลือก็ไม่เห็นจำ เป็นต้องไปดูของคนอื่นเลย คิดจินตนาการเอาเองก็ได้ว่าเรากำลังเล่นหนังโป๊ที่เราสร้างเอง แสดงเอง กำกับเอง ดูเอง สนุกดีออกจะตายไป


แต่เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าชัก จะเริ่มจืดชืดเป็นแกงจืดเต้าหู้หมูสับค้างคืน แล้วล่ะก็ นอนดูหนังโป๊ด้วยกันก็น่าจะลองดูนะ มันก็เหมือนกับก่อนที่เราจะไปตีเทนนิส เราก็ไปดูภราดรตีกับอังเดร อากัสซี่ ก่อน ท่าไหนสวยๆ ลูกไหนเด็ดๆ เราก็จำเอาไปใช้บ้าง ที่สำคัญมันทำให้เรารู้สึกฮึกเหิมดี... รื่องอย่างว่าที่เริ่มจืดชืดรับรองว่าจะกลับมาร้อนแรงทันตาเห็น


สิ่งสำคัญของ ผู้หญิงที่ต้องทำใจไว้บ้างก็คือ รับได้หรือเปล่าหากสามีกำลังนอกใจทางความคิด ฟังแล้วเข้าใจยากเหมือนกันนะครับ เอาเป็นว่าขณะที่คุณสามีกำลังทำอะไรกับเราอยู่ แต่ใจเขาน่ะสิอาจสร้างจินตนาการอยู่กับผู้หญิงในหนังโป๊คนนั้นอยู่ก็ได้ นี่ถ้าครางออกมาไม่ใช่ชื่อเราจะได้เตรียมตัวทำใจไว้ก่อนล่วงหน้า... คิดว่าผู้หญิงในจินตนาการของเขาเป็นติวเตอร์เรื่องอย่างว่าให้เขาก็แล้วกัน นะครับ ในชีวิตจริงเราก็ยังเป็นตัวจริงอยู่คนเดียวเรื่องอย่างนี้ผู้หญิงแต่ละคน ก็คิดไม่เหมือนกันนะครับ บางคนยังไม่ทันได้คิดก็หึงซะแล้วก็มี แต่ถ้าใจกว้างสักหน่อยเรื่องอย่างว่าอาจจะซู่ซ่าส์ดีกว่าเก่าก็ได้


แต่ก็ขึ้นอยู่กับ แต่ละคู่ด้วยนะครับ บางคนยังไงก็ไม่ดู รับไม่ได้ บางคนก็ขยะแขยง บางคนก็ธรรมะธรรมโมไม่อยากดู ก็ต้องยอมรับเหตุผลของซึ่งกันและกัน หากติดใจขึ้นมาก็อย่าให้ถึงกับหมกมุ่นนะครับ ใช้เป็นผงชูรสก็พอแล้ว



ที่ มาจาก : MODERNMOM

ตอน. "คุณยายศรีธนนชัย".

หญิงชรานางหนึ่งถือถุงใบเขื่องเดินเข้าไปในธนาคาร
และกล่าวกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ ว่าต้องการ
ฝากเงินสามล้านบาทแต่ขอคุยกับผู้จัดการโดยตรง
พนักงานเห็นว่าหญิงชรามีเงินจำนวนมาก เลยพาไปห้องผู้จัดการเมื่อไปถึง
ผู้จัดการเกิดความสงสัยว่า หญิงชราไปเอาเงินมาจากไหนเลยถามขึ้นว่า

ผู้จัดการ - คุณยายเอาเงินมาจากไหนมากมายครับ ?
คุณยาย - ยายชนะพนันมาจ้ะ
ผู้จัดการ - ยายไปพนันอะไรมาเหรอครับ ?
คุณยาย - ก็ไม่มีอะไรมากหรอกพ่อหนุ่ม....อยากรู้ใช่ไหม ? เรามาลองพนันกันก็ได้สักแสนนึง เอาไหมล่ะ ?

ว่าก่อนเก้าโมงเช้าวันพรุ่งนี้ไข่ของพ่อหนุ่ม จะกลายเป็นสี่เหลี่ยม
ผู้จัดการ - ฮ่าฮ่าฮ้า ล้อเล่นน่า จะพนันกันจริงๆเหรอ ?
คุณยาย - จริงๆซิ ยายมีเงินไม่เห็นเหรอนี่ไงตั้งสามล้าน

คุณยายเปิดถุงเงินให้ผู้จัดการดู

ผู้จัดการ เห็นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ที่ไข่ของตนจะกลายเป็นสี่เหลี่ยม เลยตอบตกลงรับคำท้าและนัดแนะกัน

ว่าพรุ่งนี้เช้าเก้าโมงจะมาพบกันอีกที ตลอดวันนั้นผู้จัดการไม่เป็นอันทำงานเฝ้าแต่คอยคลำไข ่ตัวเอง

ว่ายังกลมๆ รีๆ อยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า รุ่งเช้าตื่นขึ้นมาผู้จัดการก็ไม่ลืมที่จะ ตรวจสอบลูกน้อยทั้งสองใบ

ว่ายังกลมอยู่เหมือนเดิมจริง ๆ เมื่อคลำดูแล้วก็ยังกลมๆดีอยู่ ผู้จัดการเลยรู้สึก กระหยิ่มใจว่าวันนี้รวยแน่

เวลาเก้าโมงตรงหญิงชรามาที่ธนาคารและตรงไปที่ห้องผู้ จัดการทันทีพร้อมกับชายอีกคน

ผู้จัดการ - สวัสดีครับคุณยาย อ้าว...พาใครมาด้วยละนี่ ?
คุณยาย - อ๋อ … ทนายน่ะ ยายเห็นเงินพนันมันมากเลยพาทนายมาด้วย
ผู้จัดการ - ฮุฮุ … คุณยายผมเสียใจด้วยนะคุณยายแพ้พนันผมแล้วหละไข่ ผมยังกลมอยู่เลยนี่ไง

ว่าแล้วผู้จัดการก็จัดแจงปลดกางเกงลงและเรียกให้หญิง ชรามาตรวจสอบน้องชายได้
หญิงชราจึงเดินเข้าไปแล้วก็ลูบๆคลำๆไข่ผู้จัดการอยู่ สักพักแล้วพูดขึ้นว่า

คุณยาย - อืมมมม ยังกลมอยู่จริงๆ ยายยอมแพ้แล้ว

ขณะที่คุณยายกำลังคลำไข่ผู้จัดการอยู่นั้น...
ผู้จัดการ เหลือบไปเห็นทนายที่มากับหญิงชรากำลังเอาหัวโขกกำแพงอย่างแรงติดๆ
กันหลายครั้ง เลยถามคุณยายว่า

ผู้จัดการ - ยายๆ ทนายของยายเขาเป็นอะไรเหรอ ?
คุณยาย - อ๋อ … เขาแพ้พนันยายน่ะ
ยายบอกเขาว่า ภายในเที่ยงวันนี้ยายจะได้คลำไข่ผู้จัดการแบ็งค์ใน office ของผู้จัดการเองเลย
ทนายเขาไม่เชื่อ เราเลยพนันกันสองแสน....อิอิอิ..................

--
โบราณว่า "การศึกไม่หน่ายกลอุบาย"

ซุนวูกล่าวว่า..
ถ้ามีกำลังเหนือกว่า 10 เท่า ให้เข้าปะทะ
ถ้ามีเหนือกว่า 5 เท่า พึงล้อมไว้
ถ้าเหลือกองเดียว ให้ใช้กลอุบาย

ศาลไม่ยุติธรรม

นักโทษชายสองคนคุยกัน
น.ช. 1  /  ศาลตัดสินไม่ยุติธรรม
น.ช. 2  / ไม่ยุติธรรมยังไง
น.ช. 1  / ข้าโดนข้อหาปล้น ถูกจำคุก และยึดของกลางเป็นปืนไว้
น.ช. 2  / ข้าก็โดนข้อหาจี้ทรัพย์ โดนยึดมีดของกลางไว้เหมือนกัน
น.ช. 1  / (ชี้ไปยังนักโทษที่มาใหม่)
            แต่ไอ้หมอนั่นไม่เห็นถูกยึดของกลางไว้
น.ช. 2  / แล้วมันเจอคดีอะไร

น.ช. 1  / (ถอนหายใจแล้วพูดเสียงเครียดๆว่า)
            มันโดนคดีข่มขืน นั่น ของกลางยังอยู่กับตัวมันอยู่เลย

ใจเอ๋ยใจ ลอยไปไหนตอนทำงาน

สาเหตุของการใจลอยก็คือมีเรื่องบางอย่างค้างคาใน ใจ ที่ขับไล่ให้ออกจากความคิดเท่าไหร่ก็ไม่ไป ทำให้คุณไม่มีสมาธิในการทำงานเต็มที่และเป็นเพราะไม่มีสมาธินี่เอง ที่บางทีก็ทำให้คุณป๋ำๆเป๋อๆ หลงๆลืมๆ ซึ่งเป็นนิสัยที่ไม่รุ่งเลยในการทำงาน และนี่คือเทคนิคการเพิ่มสมาธิและขจัดนิสัยขี้ลืม เพิ่มสมาธิ            ใช้จินตนาการเข้าช่วย บางทีเราก็ลุกขึ้นมาจากโต๊ะ เดินเข้าไปในครัว แล้วก็นึกไม่ออกว่า เข้ามาทำอะไร หรือบางทีกำลังจะเดินไปหยิบของที่โต๊ะของเพื่อน เสียงโทรศัทพ์ก็เข้ามาขัดจังหวะ ทำให้คุณต้องไปรับโทรศัพท์ เสร็จแล้วก็ลืมไปเลยว่าจะทำอะไรต่อ ดังนั้น สมมติว่าคุณจะเข้าไปในครัวเพื่อหยิบแจกัน ลองนึกภาพดอกไม้ก่อนที่จะเดินเข้าไปจะได้รู้ว่าเราเข้ามาทำไม            กระตุ้นตัวเอง ใช้หนังยางรัดข้อมือ พอใจเริ่มลอยเมื่อไรก็กระตุกหนังยางเรียกสติและความจำให้กลับคืนร่าง หรือจะใช้วิธีการหยิกก็ได้เช่นกัน            อยู่เงียบๆ คุณก็รู้ว่าตัวเองสมาธิสั้น ยิ่งมีอะไรมาดึงความสนใจ สมาธิคุณก็ยิ่งแตกกระจายเท่านั้น ดังนั้นให้ปิดวิทยุ โทรทัศน์ ดึงปลั๊กโทรศัพท์ออกหรือปิดเสียงเรียกเตือนเวลามีอีเมล์เข้า คุณจะได้ไม่วอกแวกและมีสมาธิเต็มที่ หรือาจจะบอกเพื่อนก็ได้ว่าอย่าเพิ่งกวน และก็อยู่ห่างขาเม้าท์ในออฟฟิศเข้าไว้            หยุด เมื่อไรก็ตามที่ใจมันลอยออกจากตัว แล้วทำให้ใจไม่จดจ่อกับสิ่งที่อยู่ในมือ ให้หยุดทันที คุยกับตัวเองในใจให้เสร็จเรื่องราว แล้วหันกลับมาสนใจงานที่ทำค้างต่อ  ส่วนนิสัยขี้ลืมมีวิธีแก้คือ            ลืมชื่อคน คนที่จะก้าวหน้าในที่ทำงานจะต้องจำชื่อคนได้ ไม่เชื่อลองสังเกตคนใหญ่ๆโตๆ ซิ ทั้งที่เขาหรือเธอรู้จักคนมากมาย แต่ก็ยังจำชื่อคนเล็กๆที่ไม่สำคัญอย่างเราได้แม่น ในขณะที่เรากลับจำชื่อคนที่เคยเจอไม่ค่อยได้ ดังนั้นถ้ามีใครแนะนำคุณให้รู้จักกับคนใหม่ๆ ลองวาดภาพในใจว่าคุณเขียนชื่อคนคนนั้นแปะหน้าผากของเขาหรือเธอ และรีบพูดทวนชื่อซ้ำทันที หรือไม่งั้นก็คิดคำคล้องจองซึ่งเป็นจุดเด่นของคนนั้นขึ้นในใจ เช่น สมมุติชื่อมาลี แล้ววันนี้เธอใส่สีแดง ก็เรียกเธอในใจว่ามาลีสีแดง คราวหน้าที่เจอกันคำว่าสีแดงคงแวบขึ้นมาก่อน แล้วคุณจะนึกชื่อเธอออกเอง            จำสิ่งที่คนอื่นพูดไม่ได้ ใช้ภาพเข้าช่วย เวลาฟังก็ให้นึกภาพตาม วาดภาพสิ่งนั้นในใจ เช่นถ้าสมมุติเธอบอกว่าไปอยุธยาก็ให้นึกถึงภาพวัดวาอาราม           - จำวันที่ ใช้เทคนิคเข้าช่วย เช่น คุณมีประชุมวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ให้นึกถึงจุดเด่นของเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งคือวาเลนไทน์ คุณก็จำแค่ว่าวาเลนไทน์ลบสอง           - จด ไม่มีอะไรดีไปกว่าการจดอีกแล้ว เพราะการจดเป็นการเตือนตัวเองอีกทาง จริงๆแค่ลงมือจดเพื่อช่วยการจำ คุณก็ไม่ลืมแล้ว           - ตั้งสติ เวลามีใครมาถามชื่อคน หรืออะไรสักอย่าง แม้แต่เรื่องง่ายๆ เช่นชื่อหนัง ชื่อนักร้องในเวลาทีเร่งรีบ คุณจะนึกไม่ออก นึกเท่าไหร่ก็ติดอยู่ที่ริมฝีปากใช่มั้ย ค่อยๆตั้งสติ เดี๋ยวคุณจะคิดออกเอง อย่าพยายามรีบคิด รีบนึก เพราะยิ่งนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกเสียที             ลองใช้วิธีต่างๆที่แนะนำเหล่านี้ แล้วคุณจะค่อยๆหายจากอาการใจลอยในไม่ช้า